เลกซัส ประเทศไทย ขอแนะนำ The All-new Lexus RX 450h+ CHARGE THROUGH THE LIMITS OF IMAGINATION เหนือขีดจำกัดแห่งจินตนาการ ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอกซ์โป ครั้งที่ 39
นายศุภกร รัตนวราหะ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับหรูรุ่นหลัก The All-new Lexus RX450h+ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ครั้งแรกของเลกซัส RX ใหม่ในเจเนอเรชันที่ 5 ที่มาพร้อมทางเลือกขุมพลังการขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid :PHEV) สะท้อนความท้าทาย เพื่อมุ่งสู่ยุคใหม่ของเลกซัส พร้อมอีกขั้นแห่งประสบการณ์การขับขี่ ภายใต้เอกลักษณ์ “Lexus Driving Signature” มอบการตอบสนองได้ดั่งใจและนุ่มนวล แม้เมื่อขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) พัฒนาตั้งแต่โครงสร้าง GA-K ให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง แข็งแกร่งขึ้น น้ำหนักเบาลง ตัวรถกว้างขึ้น และฐานล้อยาวขึ้น พร้อมเอกลักษณ์ใหม่ Spindle body สะกดสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสาร TAZUNA COCKPIT เพิ่มความเงียบ กว้างขวาง มอบพื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่ แฝงปรัชญา “โอโมเตะนาชิ” เน้นออกแบบโดยนึกถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2.5 ลิตรสี่สูบแถวเรียง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า และหลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า“E-FOUR” ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง จ่ายกำลัง และกระจายแรงบิดที่ล้อ ให้การตอบสนองทันใจ และมีระบบมาตรฐานความปลอดภัย LEXUS SAFETY SYSTEM PLUS (LSS+) ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอกซ์โป ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 1 -12 ธันวาคม 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เลกซัส RX ยนตรกรรมครอสโอเวอร์หรูรุ่นสำคัญรุ่นหนึ่งของเลกซัส ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั่วโลก ผู้สร้างตำนานระดับโลก ให้กับแบรนด์เลกซัส นับตั้งแต่การแนะนำ RX 300 เจเนอเรชันแรก ซึ่งบุกเบิกรถยนต์ลักชัวรีครอสโอเวอร์เป็นรายแรกของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541 รวมทั้งการบุกเบิกเทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ด้วยการแนะนำ RX 400h รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดเป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี พ.ศ.2547 สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มแนะนำเลกซัส RX 300 เจเนอเรชันที่ 2 เมื่อปี 2546 ด้วยการเป็นยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับหรู ดีไซน์ภายนอกสปอร์ต ทนทาน และภายในหรูหรา เงียบ โอ่อ่า สะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอยเต็มที่ มอบสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และ LEXUS DNA ที่มอบคุณภาพชั้นเลิศ ความนุ่มนวลขณะขับขี่ ผสานศิลปะแห่งการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ปราณีต พิถีพิถัน ในทุกรายละเอียด ทำให้เลกซัส RX ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า พร้อมการันตีถึงความนิยมใน 90 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดจำหน่ายสะสมที่มากกว่า 3.5 ล้านคัน
นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “วันนี้ ผมขอแนะนำการกลับมาของรถโมเดลหลักรุ่น “RX” ที่เปิดตัวพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยกับอีกหลายรางวัลด้านความปลอดภัย ทำให้ยอดขายทั่วโลกของ RX มีมากกว่า 3.5 ล้านคัน การพลิกโฉมของ RX เจเนอเรชันที่ 5 ในวันนี้ สะท้อนความ ท้าทาย เพื่อมุ่งสู่ยุคใหม่ของเลกซัสกับ “RX 450h+ ปลั๊กอินไฮบริด” ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในนามของเลกซัส ผมขอขอบคุณความไว้วางใจจากลูกค้าทุกท่าน”
“RX ใหม่ พัฒนาภายใต้แนวคิด ALLURING x VERVE ให้มีดีไซน์โดดเด่น และสมรรถนะทรงพลัง ภายนอกดูภูมิฐานยิ่งขึ้นด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า และล้อคู่หลังที่เพิ่มขึ้น ไฟหน้า LED แบบโปรเจกเตอร์ พร้อมไฟ DRL ทรงตัว L กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กับการนำเสนอเอกลักษณ์ Spindle Body ในแบบฉบับเลกซัส ด้านสมรรถนะ ตอกย้ำเอกลักษณ์การขับขี่แบบเลกซัส ด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เงียบ และประหยัด ผสานการทำงานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ให้พลกำลัง 18.1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง กับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แบบสี่สูบแถวเรียง ไร้กังวลแม้ขณะพลังงานไฟฟ้าอยู่ในระดับต่ำ ระบบไฮบริดจะสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าอย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้อัตราเร่งและรอบเครื่องสัมพันธ์กับความเร็วรถ และทำความเร็วได้อย่างราบรื่น ปลอดภัยต่อระบบขับเคลื่อนด้วยระบบหล่อเย็นแบตเตอรี่สำหรับอากาศร้อน ชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าใช้เซลล์ลิเธียมไอออนประสิทธิภาพสูง ให้ระยะทางการขับด้วยไฟฟ้าที่เพียงพอ โดยเดินทางได้ไกลเกือบ 90 กม. ใน EV Mode ใช้เวลาชาร์จไฟเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยเครื่องชาร์จกระแสสลับ TYPE2 สามารถตอบสนองการใช้งานประจำวันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้ RX ใหม่ คือ SMART EV ตัวจริง”
“ภายในห้องโดยสาร ออกแบบด้วยแนวคิด TAZUNA COCKPIT มอบความเงียบ กว้าง และพื้นที่ใช้สอยเต็มที่ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในทุกองค์ประกอบ รวมทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้ขับสะดวกยิ่งขึ้น และระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งสวนมา (Safe Exit Assist) ซึ่งถูกแนะนำเป็นครั้งแรกในเลกซัสประเทศไทย เพื่อความมั่นใจสูงสุด เลกซัส RX 450h+ PHEV มีให้เลือก 2 เกรด คือ LUXURY AWD และ PREMIUM AWD สีภายนอกมีให้เลือก 9 สี กับทางเลือกสีภายในในแต่ละเกรด พร้อมรับประกัน แบตเตอรี่ 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง” นายศุภกร กล่าวด้วยความมั่นใจ
The All New Lexus RX450h+ PHEV
เลกซัส RX เป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ลักชัวรีครอสโอเวอร์รายแรกของโลก ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน สำหรับเลกซัส RX รุ่นใหม่ ทีมวิศวกร และนักออกแบบมุ่งถ่ายทอดการขับขี่ที่เพลิดเพลินออกมาเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีสัดส่วนที่สะกดสายตา น่าหลงใหล และกระตุ้นให้รู้สึกมีชีวิตชีวา และเมื่อขับก็ยิ่งเพลิดเพลินกับสมรรถนะที่เร้าใจ
ดีไซน์ภายนอก นำเสนอเจเนอเรชันใหม่ของเลกซัส
- เลกซัส RX ใหม่ดูภูมิฐานยิ่งขึ้นด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า และล้อคู่หลังที่เพิ่มขึ้น ให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้น และสดใหม่ แต่มั่นคง และปลอดภัยในขณะเดียวกัน เพื่อสื่อถึงสมรรถนะการขับขี่แบบฉบับเลกซัสที่คุณจะได้รับจากรถรุ่นนี้
ดีไซน์ภายใน ควบคุมง่ายได้อย่างใจ กับแนวคิดแบบ TAZUNA
- ภายในห้องโดยสารของเลกซัส RX ใหม่ ออกแบบภายใต้แนวคิดแบบ TAZUNA ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการบังคับควบคุม ซึ่งใช้ในบริบทของการขี่ม้า เพื่อสื่อถึงความผูกพันระหว่างเจ้าของกับม้าคู่ใจ เลกซัส RX ออกแบบภายในห้องโดยสารตามแนวคิด Tazuna Cockpit มุ่งยกระดับการสื่อสารระหว่างมนุษย์ และเครื่องยนต์กลไกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถใช้งานทุกอย่างในรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดช่องว่างระหว่างมนุษย์ และเทคโนโลยี พร้อมแฝงปรัชญา “โอโมเตะนาชิ” ที่ใส่ใจในการออกแบบที่นึกถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ในเลกซัส RX ใหม่ ผู้ขับเปรียบเสมือนผู้กุมบังเหียนที่สามารถสื่อสารกับรถคู่ใจได้
- หน้าจอ Head up display แบบสี* (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น) แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ
- ระบบควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส* (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น) ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยของเลกซัส มีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือ ซึ่งจะระบุได้ว่าผู้ขับวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด และแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย
- หน้าจอสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางเชื่อม Apple CarPlay แบบไร้สาย
หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว สั่งการฟังก์ชันได้หลากหลายเพียงใช้สวิตช์ในจอ และใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงผล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ
- หน้าจอแสดงผล TFT และมาตรวัด LCD รูปแบบข้อมูลในจอจัดวางให้อ่านง่าย ชัดเจน รวดเร็ว ผู้ขับจึงดูข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย แม้ขณะขับรถ อาทิ เส้นทางการนำทาง สถานะระบบช่วยขับขี่ กำหนดเวลาถึงที่หมาย และระยะทางการขับขี่
- แนวคิดในการออกแบบภายในห้องโดยสาร สร้างความรู้สึกโอ่โถง แต่อบอุ่นด้วยการออกแบบคอนโซลหน้าให้เป็นเส้นยาวตามแนวนอนเชื่อมตั้งแต่แผงหน้าปัดไปจนถึงประตูคู่หน้า เสริมความโปร่งโล่งด้วยหลังคาพาโนรามิกตั้งแต่หัวจรดท้าย (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้ง) นอกจากนั้น การใช้กลอนประตูไฟฟ้า E-Latch ยังช่วยลดความจำเป็นในการติดตั้งมือจับด้านบนของแผงประตู เส้นสาย/จากด้านหน้ารถจึงสามารถเชื่อมโยงมาถึงด้านข้างได้โดยไม่มีสะดุด
- เบาะคู่หน้ามอบความรู้สึกโปร่งสบายยิ่งขึ้น ด้วยการขยายเสาคู่หน้า และขอบหน้าของหลังคาออก นอกจากนั้น โครงสร้างตัวถัง GA-K ยังช่วยเพิ่มระยะระหว่างเบาะคู่หน้า และคู่หลัง ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พื้นที่ต่ำช่วยให้ที่วางขาของทุกที่นั่งมีระยะความลึกที่พอเหมาะ เพลากลางที่พาดผ่านห้องโดยสารตอนหลังได้รับการปรับรูปแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถเข้า-ออกจากรถได้ง่าย
- แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซน์เนอร์ของเลกซัสอาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสำหรับสร้างบรรยากาศภายใน ทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา นอกจากนั้น หน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สี
- ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ กรอบประตูท้ายรถของเลกซัส RX ใหม่ มีความเพรียวบาง และมีขอบล่างที่อยู่ต่ำ คุณจึงใช้พื้นที่ภายในรถได้อย่างสะดวกสบาย ขนสัมภาระขึ้น และลงจากท้ายรถได้ง่ายดายพร้อมติดตั้งไฟ LED ทั้งหมด 3 ดวงที่ผนังซ้าย-ขวา ของห้องเก็บสัมภาระ และด้านในของฝาท้าย โดยกำหนดตำแหน่งให้พอเหมาะเพื่อให้เห็นชัดเจนและดูสวยงาม
สุนทรียภาพในการขับขี่ ตอกย้ำปรัชญา Lexus Driving Signature
ขัดเกลารายละเอียดตั้งแต่รากฐาน เพื่อปรับแต่งเอกลักษณ์การขับขี่แบบเลกซัสให้ยิ่งสมบูรณ์แบบ
- เอกลักษณ์ด้านการขับขี่ของเลกซัส ที่เรียกว่า Lexus Driving Signature คือบุคลิกที่ทีมวิศวกรและนักออกแบบตั้งใจให้ผู้ใช้รถเลกซัสได้สัมผัสจากรถทุกรุ่นของเรา โดยเน้นที่ความเพลิดเพลินจากอัตราเร่งที่ราบรื่น การเลี้ยว และการเบรกเป็นไปตามสั่งอย่างเที่ยงตรงไม่ว่าในสถานการณ์ใด สำหรับ เลกซัส RX ใหม่ เราได้ปรับแต่งตั้งแต่องค์ประกอบขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง การลดปัจจัยต้านแรงเฉื่อย การลดน้ำหนักของตัวรถ และการเพิ่มความแข็งแกร่งให้โครงสร้าง ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะ ขัดเกลาจุดเด่นหลักของเลกซัส อย่างความเงียบ และความสบายในห้องโดยสารให้ยิ่งสมบูรณ์แบบ
- สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K ในเลกซัส RX ใหม่ ช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง 15 มม. จาการลดน้ำหนักตัวรถ และลดความสูงของพื้นรถ ระยะฐานล้อยาวขึ้น 60 มม. และระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าเพิ่มขึ้น 15 มม. และล้อคู่หลัง 45 มม. ช่วยเพิ่มสมดุลให้การทรงตัว และลดอาการหน้าส่ายขณะวิ่ง นอกจากนั้นการใช้งานต่างๆ พัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งการเข้าถึงห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถที่สะดวกขึ้น พื้นที่ใช้สอยต่างๆ กว้างขึ้น สะดวกสบาย ประณีตและหรูหรายิ่งขึ้น
- ระบบกันสะเทือน/โช้คอัพ ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ช่วยส่งแรงขับไปยังพื้นถนนได้เต็มกำลัง พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ องศาของโช้ค และชนิดของยางหุ้มโช้คต่างๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อลดอาการย้อยขณะเร่งความเร็ว ลดความเร็ว และเข้าโค้ง รวมทั้งลดแรงสั่นสะเทือนขณะใช้ความเร็วสูง โช้คอัพแบบสวิงวาล์ว พร้อมระบบ AVS (Adaptive Variable Suspension) แบบโซลีนอยด์ ดูดซับแรงสะเทือนได้ดีตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงย่านความเร็วสูง ล้อทั้งสี่ยึดเข้ากับเพลาขับด้วยวิธี Hub Bolt ที่แข็งแกร่ง เพิ่มความมั่นคงพร้อมลดน้ำหนักใต้สปริง ควบคุมรถง่าย ตอบสนองเฉียบคม
- ความแข็งแกร่งของตัวถัง แพลทฟอร์ม GA-K ในส่วนท้ายรถ ออกแบบให้รองรับช่วงล่างแบบ Muti-link โดยเฉพาะ พร้อมเสริมความแข็งแรง ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ High-torsion ที่ทำงานเสริมกันกับช่วงล่างทั้งขณะเร่งความเร็ว และลดความเร็ว และเข้าโค้ง กรอบฝาท่อของรถยึดด้วยโฟม ความแข็งแกร่งสูง เพื่อลดการบิดตัวของตัวถังโดยไม่เพิ่มน้ำหนักให้ตัวรถ ข้อต่อ และจุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างด้านหลังทั้งหมด ผ่านการเสริมความแข็งแกร่งโดยเพิ่มจุดเชื่อมให้ถี่ขึ้น (short pitch welding) ใช้การเชื่อมด้วยเลเซอร์ (laser screw welding) และใชักาวยึดโครงสร้างอย่างดี แกนพวงมาลัยทำจากอะลูมินัมหล่อขึ้นรูปที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความเฉียบคมในการบังคับทิศทาง ฝากระโปรงหน้าใชัล็อคสองชั้ันที่แน่นหนา ช่วยลดการส่ายของหน้ารถทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นคงและเพลิดเพลิน
- ความเงียบที่ผ่อนคลาย เอกลักษณ์ความเงียบที่เป็นธรรมชาติในห้องโดยสาร ผ่อนคลาย และไร้เสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนน หรือสภาพแวดล้อม เป็นผลมาจากการเลือกใช้ยางขอบประตูและขอบกระจกที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เกิดเสียงรบกวนจากพื้นถนนได้ง่าย อย่างประตู และหลังคา วิศวกรเลือกเดินขอบด้วยยางแมสติกที่ดูดซุบแรงสั่นสะเทือนได้ดี รวมทั้งเลือกใช้กระจกประตูคู่หน้าแบบกันเสียง และลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ด้วยการยึดฝากระโปรงหน้าด้วยล็อคสองชั้น และปรับตำแหน่งของวัสดุบุกันเสียงต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งยึดด้วยกาวช่วยดูดซับแรง สำหรับโครงสร้างตัวรถ วิศวกรได้ปรับรูปทรงของเสาคู่หน้า และช่องดักอากาศใหม่ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศพร้อมลดเสียงลม ทำให้ได้ตัวถังที่แข็งแกร่ง บิดตัวน้อย และระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงก์ก็มีส่วนช่วยลดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างมาก
- แอโรไดนามิก เลกซัส RX ใหม่ใช้หลักอากาศพลศาสตร์เร่งการไหลของอากาศบริเวณหน้ารถ เพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน พร้อมทั้งดักลมเข้าไประบายความร้อนให้เบรก ใต้ท้องรถมีร่องสำหรับสร้างลมหมุนขนาดเล็กเพื่อไล่อากาศ ช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ด้วยความเร็ว กดท้ายรถให้นิ่งขณะรถวิ่ง
RX 450h+ เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 2.5 ลิตร ชับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า E-FOUR
- เครื่องยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด สมรรถนะใหม่แห่งการขับขี่ อัตราเร่งที่เร้าใจ และความเงียบที่โดดเด่นจากพลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า ผสานพลังขับจากเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ชุดสำหรับล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง สร้างสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นทั้งในด้านอัตราเร่ง และความเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังปลอดภัยด้วยระบบหล่อเย็นแบตเตอรี่สำหรับอากาศร้อน
เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง
กำลังสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 227 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 – 3,700 รอบ/นาที
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Permanent Magnet Synchronous Motor
มอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 134 กิโลวัตต์ / แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร
มอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 40 กิโลวัตต์ / แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร
แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน ขนาดแบตเตอรี่ 18.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 227 กิโลวัตต์ (304 แรงม้า)
ระบบปลั๊กอินไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ 85 กม./การชาร์จ (NEDC)
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 76.9 กิโลเมตร/ ลิตร
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า E-FOUR ด้วยกำลังขับจากมอเตอร์กำลังสูง ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า ช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง โดยเฉพาะขณะออกตัว และเร่งความเร็ว กับเซนเซอร์ประเมินสภาวะการขับขี่ และจ่ายกำลังไปแต่ละล้ออย่างเหมาะสม กระจายแรงบิดระหว่างล้อด้านหน้าและหลังที่ 100:00 หรือ 20:80
- เลกซัส RX ปลั๊กอินไฮบริด มีโหมดการขับให้เลือก 4 โหมด
1. EV (Electronic Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ใช้กำลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าตลอดเวลาโดยไม่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ยกเว้นกรณีแบตเตอรี่เหลือน้อย เน้นการขับขี่ที่ไร้มลพิษ ซึ่งให้ระยะทางเพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน
2. EV/HEV แบบสลับอัตโนมัติ ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริด เมื่อเริ่มสตาร์ทรถระบบจะใช้พลังงานไฟฟ้าในโหมด EV ก่อน และหากมีการใช้รอบเครื่องสูง หรือมีการเหยียบคันเร่งลึก ระบบจะเรียกกำลังจากทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้ทำงานร่วมกัน เหมาะสำหรับเมื่อต้องการเรียกใช้กำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในบางขณะ
3. HEV (Hybrid Electric Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ และไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์จะเริ่ม และหยุดทำงานตามสภาพการขับขี่เช่นเดียวกับระบบไฮบริดทั่วไป เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการรักษาปริมาณไฟในแบตเตอรี่ โดยหากเลือกขับในโหมด EV และแบตเตอรี่เหลือน้อย ระบบจะสลับมาเป็นโหมด HEV ให้โดยอัตโนมัติ และจะสลับกลับไปเป็น EV หรือระบบอื่นๆ ที่ตั้งค่าไว้เมื่อชาร์จไฟเต็ม ทั้งโดยการเสียบปลั๊กชาร์จ และการชาร์จไฟขณะเหยียบเบรก
4. โหมดชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด แต่ยังต้องการขับด้วยโหมด EV ต่อไป โหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ขับรถไปด้วยได้ โดยระบบจะดึงกระแสไฟจากเครื่องยนต์มาชาร์จเข้าแบตเตอรี่ไฟฟ้า จึงใช้งานโหมด EV ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กชาร์จ (อาจมีข้อจำกัด และไม่สามารถใช้ได้ในบางเงื่อนไข)
เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Lexus Safety System Plus…
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK ช่วยให้จอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใชังานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอด จะปรากฎบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนํารถเข้าจอดให้อัตโนมัติโดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อม ตัวรถ และสิ่งกีดขวาง และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติ เมื้อเข้าใกล้สิ่ิงกีดขวางที่ีอาจชนได้ (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น)
- ระบบการเปิดประตูแบบบ SEA (Safe Exit Assist) เพื่อการลงจากรถอย่างปลอดภัย SEA จะทำงานร่วมกับระบบตรวจมุมอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจว่ามียานพาหนะ หรือจักรยาน แล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับ หรือผู้โดยสารเปิดประตูรถออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตูระบบ E-Latch จะไม่เปิดให้ พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบ ที่กระจกมองข้าง และบนหน้าจอ
- กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH ช่วยให้ไม่ต้องออกแรงดึง หรือผลัก เพื่อเปิดประตูอีกต่อไป ระบบจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เพียงสัมผัสสวิตช์ทั้งจากภายนอก และภายในตัวรถ
- ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System ระบบป้องกันก่อนการชน จะช่วยเพิ่มแรงเบรก และช่วยเบรกอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับพบรถยนต์ที่อาจเกิดการปะทะขึ้น รวมถึงการตรวจจับคนเดินถนน และจักรยานอีกด้วย
- ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) เทคโนโลยีปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ที่ช่วยกระจายลำแสงไฟหน้ากับวัตถุด้านหน้ารถอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นในเวลากลางคืน และไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง
- ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และยังช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อไม่ให้รถออกนอกเลน
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง โดยระบบจะตรวจวัดระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์ และกล้องบริเวณหน้ารถพร้อมลด และเพิ่มความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อคงระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ
เลือกเป็นเจ้าของ The All New Lexus RX 450h+ ได้ 9 สี
- Sonic Quartz – Sonic Titanium
- Sonic Chrome – Sonic Iridium
- Graphite Black Glass Flake – Red Mica Crystal Shine
- Sonic Copper – Terrane Khaki Mica Metallic
- Deep Blue Mica
สีภายใน RX450h+ รุ่น Luxury AWD (Smooth leather)
– Hazel และ – Black
และรุ่น Premium AWD (Semi-Aniline leather)
– Dark Sepia และ – Black
เป็นเจ้าของ The All-new Lexus RX 450h+ ทุกรุ่นวันนี้ มั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไฮบริด นานถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- รุ่น Luxury AWD 4,640,000 บาท
- รุ่น Premium AWD 5,090,000 บาท
และเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
- รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club”
- อุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย การรับประกันคุณภาพรถยนต์และระบบไฮบริด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดของรถยนต์เลกซัสทุกรุ่น 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง พร้อมการบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ
นอกจากนี้เพื่อเอกสิทธิ์เหนือระดับ… ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา Lexus Exclusive Package
Lexus Exclusive Package คือโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง มาพร้อมบริการ Lexus Concierge Service เลขาส่วนตัว และ การช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลช่วยเหลือให้คุณสะดวกสบายด้วยเอกสิทธิ์เหนือระดับ ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา
เลกซัสออกแบบทางเลือกประเภทของโปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
เลกซัส ออกแบบทางเลือกประเภทของโปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (เริ่มต้น 50,000 บาท)
- PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ) (เริ่มต้น 100,000 บาท)
- PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ (เริ่มต้น 130,000 บาท)