ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ยังเป็นกลุ่มการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่ละค่าย ต่างชูจุดเด่น ทั้งในเรื่องของความครบครันในการใช้งานได้หลากหลาย รวมไปถึงสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน คราวนี้ LadyDriveThailand จะพามาทำความรู้จัก รถยนต์ของค่ายซูซูกิ ที่แม้จะเปิดโมเดลของรุ่นนี้มาสักกระยะแล้ว แต่การปรับโฉมในครั้งนี้ชูโดดเด่นภายใต้แนวคิด THINK XL ตอบสนองทุกฟังก์ชันการใช้งานกับ… SUZUKI XL7 เพิ่มสีสไตล์ทูโทน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจที่ใส่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้
SUZUKI XL7 Multi-Dynamic Crossover ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาปรับปรุงให้มีความครบครันเหมาะสมกับความเป็นรถ MPV ที่พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเป็นรถที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า กับราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย โดยมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สำหรับในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้โดดเด่นด้วยสีทูโทน หลังคาสีดำตัดกับสีตัวรถ เติมเต็มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างสีดำ ให้ความรู้สึกเข้มและดุดันด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตสีดำผสมโครเมียม สอดรับกับไฟหน้า LED สามารถปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ มาพร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน มาพร้อมไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง เติมความเข้มด้วยซุ้มล้อสีดำ พร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว รวมถึงราวหลังคา เพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น
คอนโซลด้านหน้าตกแต่งวัสดุด้วยลาย CarbonFiber เสริมด้วยคิ้วโครเมียม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผล แจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ ทั้งยังเชื่อมต่อกับความบันเทิงด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เสริมความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ตโฟน ทันสมัยด้วยระบบ Keyless Push Start และระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมต รวมถึงกระจกมองข้างที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ให้ผู้ขับขี่สัมผัสความสะดวกสบายในการใช้งาน
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่ได้รับการปรับแต่งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่อย่างลงตัว ผสานกับแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบและปรับแต่งเพื่อตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. สร้างความนุ่มนวลและมั่นใจในทุกสภาวะถนนด้วยเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาดใหญ่ ลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนน มาพร้อมระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ระบบเบรก ABS, ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ เสริมความปลอดภัยด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
Comment
การทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ทางซูซูกิ พาสื่อมวลชนไปสัมผัสสมรรถนะถึงความสามารถในการขับขี่กันถึง ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ในระดับความสูง 1,000 – 1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเหมาะแก่การปลูกกาแฟอาราบิก้า พร้อมทัศนียภาพที่สวยงาม ธรรมชาติสีเขียวระหว่างสองข้างทาง แน่นอนว่าสภาพเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางลาดชัน คดเคี้ยว การได้ลองขับ Suzuki XL7 รุ่นปรับปรุงใหม่นี้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าถึงแม้จะเป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ แต่สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ไม่ว่าเขาสูงชันแค่ไหนก็ยังสามารถเดินทางถึงได้แบบสบายๆ
การขับขี่ลองใช้โหมด D เพียงโหมดเดียวเท่านั้น ในการขับขี่ครั้งนี้ ไม่มีปัญหาในการออกตัวในทางลาดชัน อีกทั้งผู้โดยสาร รวมผู้ขับขี่ รวมแล้ว 4 ท่าน ความประทับคือเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร และความเย็นของระบบปรับอากาศ ที่มีช่องลมแอร์ขนาดใหญ่ ในแถวนั่งตอนที่ 2 ทำให้ภายในห้องโดยสารเย็นสบาย ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว สำหรับเบาะแถวที่ 3 มีการเพิ่มช่องชาร์จไฟ 12V มาให้อีกด้วย
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจสำหรับรุ่นปรับปรุงใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้ นั่นก็คือ ส่วนของระบบความปลอดภัยในการเดินทาง ด้วยการติดตั้งกล้องหน้า ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ Digital VDO Recorder ให้ความคมชัด และเมนูการตั้งค่าต่างๆ ทำง่ายไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อมาแสดงผลที่หน้าจอขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ตรงกลางได้อีกด้วย และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger เพิ่มความสะดวกสบายเข้ามาอีกระดับ
ฟีลขับสำหรับผู้หญิงแล้ว… ถือเป็นรถที่ตอบโจทย์ เรื่องความประหยัด อีกหนึ่งคันในกลุ่ม MPV อเนกประสงค์ ทั้งในเรื่องราคา เรื่องความประหยัดน้ำมัน ความอเนกประสงค์ที่ติดตั้งที่ระดับจำเป็นยังไงก็ต้องใช้สิ่งนี้ ทั้งกล้องหน้ารถ จุดชาร์จต่างๆ ที่ติดตั้งภายในรถ ความกว้างขวางที่มาพร้อมความเย็นแอร์ อาจจะมีเสียงจากภายนอกเข้ามาในเล็กสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้จนรู้สึกเสียสมาธิ ช่วงล่างแน่นหนึบ ไม่โครงเครง อีกทั้งระดับกราวด์เคลียร์แรนซ์ที่ให้มาสูงถึง 200 มิลลิเมตร สูงพอที่จะลุยน้ำท่วม น้ำขัง ในกรุงเทพฯ หรือตามชุมชนได้สบายๆ เลยค่ะ