และข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชูไฮไลต์ 3 รุ่น ประจำบูทในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 นำโดยฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง และฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 ที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี ที่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปยนตรกรรมเอสยูวีของฮอนด้าและพร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งการประกาศราคา ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (Civic Type R) ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต ที่เปิดรับจองสิทธิ์จำนวนจำกัดอย่างเป็นทางการผ่านทาง www.honda.co.th ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ยังจัดแสดงยนตรกรรมฮอนด้าหลากหลายรุ่นในไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเทอร์โบ มาพร้อมแคมเปญ Honda Summer Deal เพื่อช่วยให้เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น ณ บูทฮอนด้า (A9) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 และยังได้รับข้อเสนอพิเศษเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ เมื่อจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 2 เมษายน 2566 และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 30 เมษายน 2566
สำหรับยนตรกรรมไฮไลต์ที่จัดแสดงภายในงาน ได้แก่
-ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวี 5 ที่นั่ง ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเติมเต็มความต้องการ
ที่หลากหลายและสร้างคุณค่าใหม่ให้ตลาดเอสยูวีอีกครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียม ทันสมัย ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ แรงได้สุดสนุกได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ* มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 869,000 บาท และรุ่น SV ราคา 799,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**
– ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ครั้งแรกกับขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV อันทรงพลังใน ซีอาร์-วี ใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85 มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย กับ 2 ขุมพลังทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบและระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นในรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง รวมทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566
– ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต มาพร้อมดีไซน์ความสปอร์ตที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย อีกทั้งคำนึงถึงการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งในด้านความเร็วและการทรงตัว
ภายนอก
– Gloss Black Rear Spoiler
รูปทรงและมุมของสปอยเลอร์ผ่านการทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้สมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ฐานยึดเป็นอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปน้ำหนักเบา ไม่เพียงให้ลุคสปอร์ต แต่ยังสร้างแรงกด Downforce ที่ทรงพลัง และช่วยลดแรงต้านอากาศ (Drag) ให้ต่ำลง เพื่อให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ดีขึ้น
– Front Fender Outlet
บังโคลนหน้าดีไซน์ให้มีช่องระบายอากาศ ช่วยระบายแรงดันออกทางด้านข้าง
– Gloss Black Front Spoiler
ขอบของสปอยเลอร์หน้า ทั้งด้านซ้ายและขวา ได้รับการออกแบบมาให้ควบคุมการไหลของลม เพื่อช่วยเสริมแรงกด Downforce และกระจังหน้าส่วนล่างที่ออกแบบเป็นตาข่าย ยังช่วยดึงลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางและช่วยลดค่าแรงเสียดทานอีกด้วย
– Gloss Black Rear Diffuser
ด้านล่างของ Rear Diffuser ได้รับการออกแบบให้ลาดลึกลงไปถึงล้อหลัง เพื่อช่วยสร้างแรงกด Downforce รวมทั้งรูปทรงและตำแหน่งของครีบยังช่วยเรื่องการทรงตัว และรูปทรงของ Diffuser ในส่วนที่อยู่ใกล้กับล้อ ช่วยลดแรงดันที่เกิดขึ้นภายในซุ้มล้อหลัง
– Gloss Black Side Sill Garnish
ส่วนปลายของชายสเกิร์ตด้านข้าง มีการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลของลมในบริเวณด้านหน้าของล้อหลัง
– ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
– ไฟตัดหมอกหลัง
– ไฟท้ายแบบ LED
– ชุดท่อไอเสียแบบ Center Triple พร้อมปลอกท่อไอเสีย
– ล้ออัลลอย 19 นิ้ว
ภายใน
– ตอกย้ำความสปอร์ตด้วยสีภายใน แดง/ดำ
– เบาะนั่งสปอร์ตแบบ Type R
– พวงมาลัยหุ้มหนังกลับแบบ Type R
– คอนโซลกลางและหัวเกียร์ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม
– สะท้อนความภาคภูมิใจของผู้ครอบครองด้วย Serial Number Plate หมายเลขที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนป้าย Type R
มอบความสะดวกสบายอันเหนือระดับด้วยพรีเมียมฟังก์ชันและเทคโนโลยี อาทิ
– มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว
– ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
– ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card
– ระบบเชื่อมต่อ Honda LogR
– ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
– เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40
ขับเคลื่อนด้วยที่สุดแห่งขุมพลังเทอร์โบ สะท้อนพลังและจิตวิญญาณความสปอร์ต
มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ได้รับการพัฒนามาสำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ โดยเฉพาะ มอบกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด สัมผัสความรู้สึกของอัตราเร่งได้ทันที และให้อัตราเร่งต่อเนื่องไปจนถึงช่วงความเร็วรอบสูง
เติมความสนุกในทุกสถานการณ์การขับขี่ เพียงเลือก Drive mode เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการขับขี่ได้ทันที นอกเหนือจาก 3 โหมดมาตรฐานแล้ว ยังมีโหมด Individual ที่ผู้ขับสามารถตั้งค่าการขับขี่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเร้าใจในสไตล์ของตนเอง
– + R MODE / SPORT MODE / COMFORT MODE / INDIVIDUAL MODE
มั่นใจในทุกการขับขี่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
– ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
– ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
– ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ
– ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
– กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
– เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
– ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
– ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
– ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
– ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า (Dual Knee Airbags)
– ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
– ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
– ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ พร้อมจำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท เปิดรับจองสิทธิ์จำนวนจำกัดอย่างเป็นทางการผ่านทาง www.honda.co.th ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ พร้อมสีใหม่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก)
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังจัดเต็มทัพยนตรกรรมในหลากหลายเซกเมนต์ เพื่อให้ลูกค้าเลือกเป็นเจ้าของได้ตามไลฟ์สไตล์ นำโดยไลน์อัปยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี และฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี และไลน์อัปยนตรกรรมเทอร์โบ ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก และฮอนด้า ซีวิค พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายนำโดยฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่
ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูทฮอนด้า (A9) ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 หรือ Motor Show 2023 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 มาพร้อมแคมเปญ Honda Summer Deal** เมื่อจองรถยนต์ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 2 เมษายน 2566 และรับรถยนต์ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 30 เมษายน 2566 และข้อเสนอสุดพิเศษที่แตกต่างกันสำหรับรถยนต์แต่ละรุ่นได้ทั้งในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถทดลองขับได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับทางwww.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 31 มีนาคม 2566 จะได้รับของที่ระลึกจากฮอนด้า**