เกรท วอลล์ มอเตอร์ เขย่าวงการยานยนต์ในไทยให้ครึกครื้นอย่างต่อเนื่องในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) เชิญชวนผู้บริโภคชาวไทยร่วมชมและสัมผัสขบวนยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ภายใต้แนวคิด “ULTIMATE ADVENTURE” ใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (Bangkok International Motor Show 2023) ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ภายในงาน ท่านจะได้ตระการตาไปกับขบวนทัพรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมไฮไลท์รถยนต์เอสยูวีออฟโรดพรีเมียมสำหรับผู้ขับขี่สายลุยยุคใหม่ อย่าง All New GWM TANK 500 Hybrid SUV- Nothing is Unreachable ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง ที่เตรียมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ร่วมด้วยทัพรถยนต์ยอดนิยมอย่าง All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV, New HAVAL H6 Hybrid SUV, HAVAL JOLION Hybrid SUV, ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รวมไปถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะแห่งอนาคตและกิจกรรมสุดสนุกมากมายจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภายในงานนี้ท่านจะได้พบกับ
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ที่มาพร้อมดีไซน์คลาสสิก บึกบึน แต่แฝงความหรูหราและล้ำสมัยไว้ เอาใจผู้ขับขี่ขาลุยสายออฟโรด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กิจกรรมกลางแจ้งและการผจญภัย ให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ใกล้จะมาถึง พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์เพื่อซื้อภายในงานที่แฟนๆ ชาวไทยไม่ควรพลาด
พาเหรดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมในไทยทั้ง 6 รุ่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) ประกอบด้วย All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กที่ได้รับรางวัล Best Hybrid SUV Under 1,600 C.C. ในปีล่าสุดจากงาน CAR & BIKE OF THE YEAR 2023, New HAVAL H6 Hybrid SUV ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์คอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่อง, HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย, ORA Good Cat ที่เข้ามาจุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ให้กับชาวไทยและได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง และ ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันเร้าใจ
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV เป็นรถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม สร้างบนแพลตฟอร์ม TANK แพลตฟอร์มโมดูล่าร์ออฟโรดอัจฉริยะ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ได้หลายประเภทและหลากหลายขนาด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ 9HAT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV สร้างสรรค์มาด้วยปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ตามลักษณะ DNA ของแบรนด์ TANK ที่มีความบึกบึน แกร่ง แต่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา สง่างาม มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO และมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา แดง และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล)
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV มีมิติตัวรถที่กว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน มิติตัวรถ 1934 x 5078 x 1905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2850 มม. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
– ดีไซน์ด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง
– ไฟหน้า Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED
– ดีไซน์ด้านหลัง ออกแบบภายใต้แนวคิด offroad ด้วยประตูท้ายแบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่ที่ฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว
– ไฟท้าย vertical LED ดีไซน์โดดเด่นในแนวตั้ง มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกแบบ LED ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชัน ให้ความสว่างชัดเจนเพิ่มความปลอดภัย
– หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เสาอากาศแบบ shark fin และสปอยเลอร์ท้าย ช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค
– บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู
– ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 มอบภาพลักษณ์หรูหราและการขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทางระดับความลึกในการลุยน้ำ อยู่ที่ 800 มม.
การออกแบบภายใน (Interior Design)
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ออกแบบภายในสไตล์ luxury ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา กว้างขวาง สะดวกสบาย และการใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทน เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity และการตกแต่งห้องโดยสารด้วย ambient light, วัสดุสี Black, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความเพลิดเพลินในทุกช่วงเวลาการขับขี่
การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและปลอดภัย
หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ
– หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว
– หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า
– ระบบความบันเทิง พร้อมลำโพง Infinity จำนวน 12 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ
– พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) เพิ่มความสะดวกสบายและคล่องตัวในการขับขี่ พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตซ์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
– ไฟตกแต่งห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชันแบบหลายสีและเป็นจังหวะ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
– นาฬิกาแบบคลาสสิก เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสารได้อย่างลงตัว
– เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศและเบาะหนัง NAPPA เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ memory seat และระบบ welcome seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้นและลงจากรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ
– เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 พร้อมหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศและเบาะระบายอากาศ อีกระดับของความสบายด้วยที่พักแขนตอนกลาง ม่านบังแดด และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
– เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกด้วยตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถวที่ 2 และประตูท้าย
– พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ มากประโยชน์ใช้สอยด้วยห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ
– แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบ Off-Road ช่วยให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่ในสถานะการต่างๆ เป็นเรื่องง่าย
– เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล
– ระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
– ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จ Smart Phone สะดวกและรวดเร็วยิ่งไปกว่านั้น GWM TANK 500 มีระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย เพื่อให้ทุกการผจญภัยสนุกสนานและน่าจดจำ
– ระบบล็อคเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อคของกล่องถ่ายโอน สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
– ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control) ระบบจะช่วยควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิและเพิ่มความปลอดภัยจากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อน
– ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) ระบบจะทำการประเมิณความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อขับผ่านสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง
– ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศา จากมุมมองด้านบนของตัวรถ ในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม All New GWM TANK 500 Hybrid SUV และทัพยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต และลงทะเบียนเพื่อทดลองขับรถยนต์หลากหลายรุ่นได้ที่งาน รวมถึงพบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ อีกมากมาย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมต้อนรับทุกท่านที่บูธ A4 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ท่านสามารถร่วมชม LIVE สด บรรยากาศการแถลงข่าวเปิดบูธ พร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง Facebook หรือ YouTube หรือ TikTok ของ GWM Thailand ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11.30 น. เป็นต้นไป