รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘ชุดกักเก็บคราบนํ้ามันบนผิวนํ้าผลิตจากนํ้ายางพารา’ จากทีมนักเรียนอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี โดยโครงการนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะช่วยบรรเทาปัญหานํ้ามันรั่วในทะเลซึ่งส่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล ทีมนักศึกษาได้ออกแบบเครื่องกักเก็บคราบนํ้ามันด้วยแผ่นวัสดุที่ผลิตจากนํ้ายางพาราเพื่อซับและเก็บคราบนํ้ามันบริเวณชายฝั่งทะเลหรือรอบเกาะต่างๆ และใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยกักเก็บคราบนํ้ามันไม่ให้แพร่กระจายสู่ท้องทะเล
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘ต้นแบบเครื่องตากข้าวประหยัดพลังงาน’ จากทีมนักเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ที่ได้แนวคิดมาจากปัญหาการตากข้าวบนถนนในท้องถิ่นซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย จึงได้ออกแบบนวัตกรรมเครื่องการตากข้าวที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ไอนํ้าจากการระเหยออกจากเมล็ดข้าวผ่านทางท่อรูพรุน ร่วมกับเซนเซอร์ตรวจจับค่าความเข้มแสง และใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาเซลล์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘เซลล์แสงอาทิตย์แบบโปร่งใส เพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์’ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นนวัตกรรมที่ตัวเซลล์แสงอาทิตย์มีลักษณะโปร่งใส สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ทั้งบานหน้าต่างและตัวอาคาร เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งยังให้ความสวยงามสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘ผลงาน AI ตรวจจับความเสียหายของส่วนประกอบรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไมโครโฟนความแม่นยำสูง’ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ประยุกต์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ มาใช้แยกประเภทเสียงที่เกิดขึ้นและวิเคราะห์ตำแหน่งที่บกพร่องของเครื่องยนต์และส่งการแจ้งเตือนผ่านซอฟต์แวร์รถยนต์ เพื่อบอกถึงความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รางวัล Ford+ Popular Vote ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘ต้นแบบเครื่องตากข้าวประหยัดพลังงาน’ จากสถาบัน โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
รางวัล Ford+ Best of Teamwork ได้แก่ ผลงานนวัตกรรม ‘หุ่นยนต์กายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง’ จากสถาบันโรงเรียนเทศบาล 5 เด่นห้า จังหวัดเชียงราย
“ฟอร์ดภูมิใจที่ได้ร่วมส่งเสริมการขับเคลื่อนนวัตกรรมของเยาวชนไทยในโครงการ Ford+ Scholarship เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นเยาวชนตื่นตัวและให้ความสนใจส่งผลงานสร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์เข้ามาจำนวนมาก เราได้เห็นศักยภาพและความตั้งใจของเยาวชนไทยจากการนำเสนอผลงานซึ่งมีโอกาสนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นได้จริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนและสังคม” นางสาวกมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทยและตลาดอาเซียน กล่าว
ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ฟอร์ดมุ่งมั่นส่งเสริมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน โดยผสานองค์ความรู้และการสนับสนุนจากหน่วยงานที่มีความชำนาญผ่านการจัดสรรงบประมาณกองทุน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี หรือ ฟอร์ด ฟันด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบการบริหารและจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมของฟอร์ดทั่วโลก