บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6” ในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในไทย พร้อมยกระดับเอสยูวีเซกเมนต์ไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ครั้งแรกกับขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่ ผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย เติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง สู่อีกขั้นแห่งเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ ในราคา 1,419,000 – 1,729,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอพิเศษฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นในรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง รวมทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566 โดยลูกค้าสามารถสัมผัสกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 และที่โชว์รูมฮอนด้า** (รุ่นเทอร์โบ ตั้งแต่ 20 มีนาคม 2566 และ รุ่น e:HEV ในเดือนเมษายน 2566**)
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่ผสานคุณค่าใหม่เพื่อยกระดับเอสยูวีไปอีกขั้น ทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลังและมอบความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย มอบประสบการณ์เดินทางที่เหนือระดับไปอีกขั้น สู่ทุกจุดหมายกับความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ผสานฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว
– กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
– ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
– ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
– ไฟท้ายแบบ LED
– เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
– สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
– เสาอากาศครีบฉลาม
– ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
– ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน (รุ่น e:HEV RS 4WD)
– เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black
– กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
– ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
– คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
– ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
– สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black
– เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black
– ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นกับรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD)
– ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
– เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
– พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
– แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม* อาทิ
– ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
– ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
– ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
– ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
– ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
– ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
– ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง
– เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
– รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
– รุ่นเบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย*
– ใหม่ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
– ใหม่ ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
– ใหม่ ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
– ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
– มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
– ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจ กับทางเลือก 2 ขุมพลังที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่
มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) ครั้งแรกกับระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่
– ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
– โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
– มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต กับขุมพลังเทอร์โบ
– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
– ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
– ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
– ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ
– ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
– ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
– ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
– ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
– ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
– ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
– ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
– รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
– รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท
เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
– รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
– รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
– รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)
เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษ ด้านการบริการหลังการขาย** ได้แก่
– ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
– รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง