- บีเอ็มดับเบิลยูและมินิครองตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของไทยด้วยยอด
จดทะเบียนรวม 15,010 คันในปี พ.ศ. 2565 เติบโต 36.1% จากปีก่อนหน้า ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 46.6% - บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไป สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 10.3% และมียอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์รวม 1,293 คันในปี พ.ศ. 2565
- รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปี พ.ศ. 2564 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียมเพิ่มขึ้นเป็น 40.8%
- รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวในตลาดประเทศไทยแล้วถึง 6 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4, บีเอ็มดับเบิลยู i7, มินิ คูเปอร์ เอสอี และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู CE 04
- คะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (NPS Score) ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งด้านการขายและการให้บริการ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จครั้งสำคัญต่อเนื่อง ด้วยผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2565 พร้อมยอดจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ การเติบโตของยอดจดทะเบียนในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักล้วนมาจากความต้องการยนตรกรรมล้ำสมัยที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และการดำเนินการตามกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูและมินิยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมในประเทศไทยเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่องกัน โดยรถยนต์ทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมเป็น 46.6% ของตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 15,010 คัน เพิ่มขึ้น 36.1% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นบีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน และมินิ 1,438 คัน
ในปี พ.ศ. 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตและครองตำแหน่งอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมระดับโลก โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์รวม 2,399,636 คันให้กับลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกันในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปี พ.ศ. 2564 ด้วยยอดส่งมอบรวม 215,755 คันจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ พุ่งสูงขึ้นถึง 107.7% และเมื่อรวมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น 35.6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทำสถิติยอดขายสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งก้าวไปสู่ที่สุดแห่งอนาคต การเติบโตเชิงบวกของยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพและการออกแบบที่เหนือกว่าใครของบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ตลอดจนชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลิตยนตรกรรมที่ตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งนี้จึงเป็นเครื่องการันตีถึงตำแหน่งผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในตลาดยานยนต์พรีเมียมไทย 3 ปีซ้อน
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทจะยังคงดำเนินงานตามแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างการเติบโตและการพัฒนาให้กับพนักงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังมองไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบสุนทรียะแห่งการขับขี่ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า และมั่นใจในศักยภาพที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จแห่งอนาคต