นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดตัว SUZUKI XL7 HYBRID “Empower Your Journey” รถยนต์ Multi-Dynamic Crossover ที่ผสานกับเทคโนโลยี Hybrid ออกมาแข่งขันในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากกระแสความนิยมที่ลูกค้าหันมาให้ความสนใจกับรถในกลุ่ม MPV มากยิ่งขึ้นแล้ว SUZUKI XL7 HYBRID ยังมีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย 5 จุดเด่น ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในปัจจุบันได้อย่างครบครัน
SUZUKI XL7 HYBRID กับ 5 จุดเด่นโดนใจลูกค้า ประกอบด้วย
1. ห้องโดยสารกว้างขวาง ปรับใช้ได้อเนกประสงค์
ความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร SUZUKI XL7 HYBRID ด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าตกแต่งด้วยหนัง แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับอิสระแบบ 60:40 เลื่อนเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้กว้างขวาง ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระแบบ 50:50 ซึ่งเมื่อพับเบาะแถว 2 และ 3 ราบกับพื้นห้องโดยสาร จะเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย จาก 550 ลิตร เป็น 803 ลิตร ขนสัมภาระตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับการตกแต่งภายใน ดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายไม้ ผสานอารมณ์ที่ดูสุขุมนุ่มลึก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับทุกการเชื่อมต่อความบันเทิงภายในตัวรถ สะดวกไปกับแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยเป็นทรง D-Shape ให้ความรู้สึกแนวสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มแบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง ปุ่มสั่งการโทรศัพท์ และเพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
2.ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เทคโนโลยี Hybrid
ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.0 x 85.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 10Ah 12V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบ Hybrid ของซูซูกิ มอเตอร์ ISG (Integrated Starter Generator) ถูกออกแบบมาให้เสริมแรงบิดสูงถึง 50 นิวตันเมตร หรือกว่า 36% ของแรงบิดเครื่องยนต์ โดยจะเข้ามาช่วยเสริมพละกำลังในช่วงของการออกตัวและเร่งแซง ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมให้ระบบ Idling Stop ทำงานได้ดียิ่งขึ้น จึงกลายเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 19.2 กม/ลิตร (ตามมาตรฐาน Eco Sticker)
ด้านของแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 10Ah 12V ถูกติดตั้งในตำแหน่งสูง ปลอดภัยจากการขับขี่ในสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 7 กิโลกรัม ซึ่งไม่ได้ทำให้น้ำหนักของตัวรถเพิ่มขึ้นมากนัก ทั้งยังมีการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี
3.สมรรถนะดี ช่วงล่างแกร่ง ลุยได้ทุกสภาพถนน
แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะ และความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile และใช้โครงสร้างตัวถัง TECT ซึ่งทำจากเหล็กกล้าน้ำหนักเบา แต่ให้ความแข็งแรงทนทาน ผสานเข้ากับระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ในทุกสภาพถนน จะขับขี่ทางเรียบก็มอบความนุ่มนวล ขับง่าย ขับสบาย หรือจะลุยทางฝุ่นก็พร้อมรองรับการฝ่าอุปสรรคได้อย่างมั่นใจ
4.ทนทาน บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล
ความโดดเด่นของรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น คือ เรื่องของความทนทานในการใช้งาน บำรุงรักษาง่าย ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายต่อการเข้าเช็คระยะตามรอบในแต่ละครั้งราคาสมเหตุสมผล ซึ่ง SUZUKI XL7 HYBRID ก็เช่นเดียวกัน นับว่าเป็นหนึ่งในรถที่สร้างความคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภค นอกจากเทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ และมอบความประหยัดให้แก่ลูกค้า ด้านการบำรุงรักษายังง่ายดาย มีค่าบำรุงรักษาในระยะยาวที่ต่ำกว่าท้องตลาดอีกด้วย
5.ราคาไม่แพง เป็นเจ้าของได้ง่าย ผ่อนสบายกับแคมเปญพิเศษ
SUZUKI XL7 HYBRID วางจำหน่ายในราคา 799,000 บาท ซึ่งหากเทียบออปชั่นและสมรรถนะของรถคันนี้ นับว่ามีความคุ้มค่าและความครบครันที่สุดรุ่นหนึ่ง ที่ซูซูกินำเสนอแก่สำหรับผู้บริโภคชาวไทย ด้านมาตรฐานความปลอดภัยมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX กล้องมองภาพขณะถอยจอด เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง กุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณกันขโมย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยแคมเปญพิเศษ ซื้อรถ SUZUKI XL7 HYBRID ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 7,888 บาท หรือ เลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน หรือ เลือกขับฟรี 90 วัน พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วใมงอีกด้วย ทั้งนี้ เงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดและสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
SUZUKI XL7 คือหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ด้วยความครบครัน ทั้งด้านความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน รวมถึงสมรรถนะการขับขี่อันโดดเด่นที่พร้อมจะพาคุณไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกเส้นทาง โดยนับตั้งแต่เดือนเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2563 ถึง เดือนเมษายน 2567 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8,788 คัน ซึ่ง SUZUKI XL7 HYBRID จะเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้าที่จะช่วยส่งเสริมยอดขายรถยนต์ซูซูกิให้เติบโตขึ้นแน่นอน” นายวัลลภ กล่าว
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900