ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นที่สองที่จำหน่ายในยุโรป มาพร้อมดีไซน์การออกแบบใหม่ที่ผสมผสานกับการตกแต่งภายในพรีเมียมเหนือระดับ ครบครันด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อการเป็นยนตรกรรมสำหรับครอบครัวยุคใหม่ โดยได้รับการพัฒนาจากแนวคิดที่มีผู้คนเป็นศูนย์กลาง (human-centered development) เป้าหมายหลักของทีมพัฒนา e:Ny1 มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า เพื่อให้ทุกการเดินทางราบรื่นและนุ่มนวล พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและใช้งานง่าย ทีมวิศวกรผู้พัฒนาจึงท้าทายตัวเองในการดึงสมรรถนะการขับขี่และจุดเด่นของขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบออกมาให้ได้มากที่สุด
ฮอนด้า e:Ny1 ใหม่ มาพร้อมแพลตฟอร์ม e:N Architecture F ของฮอนด้าที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์หน้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่ม B-segment ของฮอนด้าทั่วโลก ร่วมกับเทคโนโลยีการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ล่าสุดของฮอนด้า ที่ส่งผลให้รถสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 412 กม. (256 ไมล์) ตามมาตรฐานการวัดระยะทางของ WLTP และสามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วจาก 10-80% โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 45 นาที และด้วยโครงสร้างที่มีความกะทัดรัด จึงสามารถจัดวางชิ้นส่วนต่างๆ ให้อยู่ที่เพลาหน้าได้
ฮอนด้า e:Ny1 ใหม่ สร้างความโดดเด่นในทุกมิติออกแบบให้ดูดี มีระดับ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว พร้อมไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวเข้ากันกับกระจังหน้าดีไซน์ดุดันที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดโดยสามารถหมุนได้เมื่อต้องการเปิดช่องชาร์จไฟที่อยู่ด้านหลัง ดีไซน์ไฟท้ายมาพร้อมเส้นสายที่เชื่อมกับแถบไฟ LED เต็มความยาวฝาประตูท้าย พร้อมตัวเลือกสีภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตา อย่างสีใหม่ Aqua Topaz พร้อมด้วยสีขาวแพลทินัม สีดำคริสตัล สีเทา Urban Grey และสีแดง Vermilion Red
ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากไลน์อัป รถยนต์ฮอนด้าทั่วไปสะท้อนความเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ระยะด้านหน้า overhang สั้น ล้อขนาดใหญ่และฐานที่กว้าง เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจในสไตล์รถ SUV ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวและเป็นเอกลักษณ์ และกระจังหน้าที่มีผิวสัมผัสเรียบ ไฟเลี้ยวด้านหลัง ไฟเบรก และไฟถอยหลัง ได้รับการออกแบบให้อยู่ในชุดโคมเดียวกัน พร้อมเส้นไฟท้ายที่ยาวเต็มพื้นที่ ช่วยให้ดีไซน์ด้านหลังดูกว้าง และให้รูปลักษณ์ที่ดูมั่นคง
โครงสร้างตัวถังของฮอนด้า e:Ny1 ใช้โครงสร้างแบบเดียวกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ด้วยความสูง 1,584 มม. กว้าง 1,790 มม. ยาว 4,387 มม. ระยะฐานล้อ 2,607 มม. พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นมาตรฐานของทุกรุ่นย่อย ให้ความมั่นใจที่เหนือระดับ มาพร้อมเส้นสาย belt line และ character line ที่เฉียบคม พื้นผิวเรียบเนียน ลวดลายการออกแบบที่เรียบง่าย เป็นระเบียบ อีกทั้งจัดวางมือจับประตูหน้าและการซ่อนมือจับประตูหลังไว้ด้วยดีไซน์ที่กลมกลืนรอบคัน จากด้านหน้าสู่ด้านท้าย
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่น เท่ ไม่เหมือนใคร สะท้อนอัตลักษณ์ใหม่ของยนตรกรรมไฟฟ้าจากฮอนด้า
ทําให้ e:Ny1 มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยการออกแบบเส้นสายรอบคันอย่างกลมกลืน นอกจากนี้เส้นสายของ LED แนวยาวใต้แนวฝากระโปรง เชื่อมต่อกับไฟหน้า โดยจะแสดงสถานะขณะกำลังชาร์จไฟในรูปแบบเฉพาะตัว ฝาสปอยเลอร์หน้าสไตล์สปอร์ตที่ติดตั้งเสมือนลอยอยู่ใต้กระจังหน้า เพื่อปิดซ่อนหม้อน้ำขณะจอดรถ กระจังหน้าด้านล่างตกแต่งด้วยสีดําเงา ดูหรูหรา โฉบเฉี่ยว ยิ่งขึ้น ส่วนช่องชาร์จไฟอยู่หลังแผงกระจังหน้าที่สามารถหมุนเปิดเข้าด้านในเพื่อทำการชาร์จไฟ อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของกระจังหน้า ทำให้สามารถชาร์จไฟได้สะดวกจากทั้งสองฝั่งของตัวรถ
ถือเป็นการเปิดตัวอัตลักษณ์ใหม่ของยนตรกรรมไฟฟ้าจากฮอนด้า โดยฮอนด้า e:Ny1 ใหม่ จะมาพร้อมกับสัญลักษณ์ H Mark สีขาว ที่ด้านหน้า ตรงกลางฝาครอบล้อ และพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีการเลือกใช้ฟอนต์ใหม่ที่ดูสมาร์ต เป็นการเน้นชื่อแบรนด์ฮอนด้าด้านหลังให้โดดเด่น ให้ลุคที่สดใหม่ พรีเมียม และจะถูกนำมาใช้กับรถไฟฟ้าทั้งหมดของฮอนด้าในอนาคต
ดีไซน์ภายใน พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ ทั้งในด้านคุณภาพ พื้นที่ใช้สอย และความสะดวกสบาย
ยกระดับประสบการณ์ภายในรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทัศนวิสัยในการขับขี่และการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ e:Ny1 มุ่งเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายและการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เพื่อทำให้ห้องโดยสารมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายจากการจัดวางแสงที่นุ่มนวล โดยได้ทำการออกแบบคอนโซลกลางใหม่ การจัดวางปุ่มเกียร์ที่เรียบง่าย เข้ากับสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า ทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งที่คนขับจะเอื้อมถึงได้ง่าย
เบาะนั่งด้านหน้าได้รับการพัฒนาโดยมุ่งเน้นความสะดวกสบายและหรูหรา ด้วยแผ่นรองยูรีเทนแบบหนา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่พร้อมโอบรับสรีระในช่วงเร่งความเร็วหรือเข้าโค้ง โดยวัสดุหุ้มเบาะมีให้เลือกแบบหนังสังเคราะห์สีดําหรือสีเทาอ่อนขึ้นอยู่กับสีภายนอก โดยออกแบบให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว รวมทั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง ช่วยให้เข้าถึงเมนู Infotainment ต่าง ๆ ได้ง่ายผ่านการแบ่งโซนใหม่ที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่นนี้ พร้อมด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว การออกแบบหน้าจอยังสะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบภายในที่เรียบง่าย สะอาดตาและเป็นระเบียบ
ในรุ่น Advance หลังคาพาโนรามาเปิดรับแสงเต็มที่ มีการเคลือบสาร Low-E ซึ่งเป็นเป็นสารเคลือบความละเอียดระดับกล้องจุลทรรศน์ เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการระบายความร้อน รวมทั้งลดความเข้มของแสงอินฟาเรดและแสงอัลตราไวโอเลตที่ผ่านเข้ามายังห้องโดยสารได้ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและกว้างขวางยิ่งขึ้น คล้ายกับการขับรถเปิดประทุน โดยมีม่านบังแดดด้านหน้าและม่านบังแดดด้านหลังสองชิ้น ที่สามารถถอดแยกชิ้นตามปริมาณแสงได้ตามต้องการโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่ระหว่างกระจกด้านบนกับพื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารด้านหลังได้ด้วย
ฮอนด้า e:Ny1 ยังมอบความอเนกประสงค์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้หลากหลาย ฝากระโปรงท้ายต่ำและพื้นราบด้านหลังช่วยให้สามารถขนสัมภาระเข้าออกได้ง่าย โดยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายสามารถจุสัมภาระได้สูงสุด 361 ลิตร และหากพับเบาะลงจะเพิ่มขึ้นเป็น 801 ลิตร เมื่อบรรทุกถึงแนวหน้าต่างด้านหลัง และได้สูงสุดที่ 1,176 ลิตร เมื่อนำสัมภาระใส่จนเต็มพื้นที่ด้านหลังจนชนเพดานห้องโดยสาร
ทั้งยังเป็นยนตรกรรมฮอนด้าที่ได้แนะนำเทคโนโลยี HMI เป็นครั้งแรก ด้วยการเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง พร้อม interface ที่ใช้งานง่ายมากขึ้น ไฮไลต์ที่สำคัญ ได้แก่ หน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง และมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้วที่รวมฟังก์ชันการใช้งาน การแสดงข้อมูล Infotainment และข้อมูลการขับขี่ ที่พร้อมเชื่อมต่อผู้ขับขี่กับรถยนต์และโลกภายนอกได้อย่างไร้รอยต่อ
หน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง ใช้งานได้ง่ายด้วยการจัดวางเมนูที่แบ่งเป็นสัดส่วน 3 โซนบนหน้าจอ สามารถเลือกใช้ได้สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียสมาธิในการขับขี่ ด้านบนเป็นโซน ‘Connect’ ที่จะรวมระบบนําทาง นาฬิกา และจอแสดงผลของกล้องไว้ โดยจัดลําดับความสําคัญให้อยู่ด้านบนเพื่อให้สามารถมองเห็นได้เด่นชัดในระดับสายตาของผู้ขับขี่ โซนกลางเป็น ‘Driver Assist’ หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ โดยจะแสดงสถานะการทำงานของรถยนต์ การตั้งค่าระบบเสียงและการสื่อสารต่าง ๆ รวมถึงแอปพลิเคชันและการตั้งค่าระบบรถยนต์ พร้อมด้วยเมนูแสดงการทำงานของระบบ EV และการควบคุมการใช้โทรศัพท์ โซนด้านล่างเป็นการควบคุมระบบปรับอากาศที่แสดงข้อมูลการปรับอากาศและระบบ Air Diffusion System กระจายความเย็นหมุนวน โดยแสดงให้เห็นบนจอตลอดเวลา สำหรับฟังก์ชันที่ใช้งานเป็นประจำจะแสดงให้เห็นเด่นชัดที่สุด เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้
นอกจากนี้ ระบบยังรองรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึง Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto พร้อมด้วยฟังก์ชัน Wi-Fi ในรถยนต์ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air ที่สามารถอัปเดตฟังก์ชันและแอปต่าง ๆ ได้จากระยะไกล เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการอัปเดตการทำงานของระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอโดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ*
ขุมพลังและแชสซี ที่ได้รับออกแบบให้มีสมรรถนะการทรงตัวที่คล่องแคล่ว ความสะดวกสบายและความเงียบที่เหนือระดับ
ด้านขุมพลังของฮอนด้า e:Ny1 ใหม่ ได้รับการจัดวางอย่างชาญฉลาด ทั้งการวางแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นรถ ทำให้ภายในมีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับทุกคน วัสดุภายในห้องโดยสารมีคุณภาพ วัสดุเบาะนั่งแบบพรีเมียม ส่งผลให้ภายในห้องโดยสารพิเศษไม่เหมือนใคร ขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ตรงกลาง ได้รวมเอาเทคโนโลยีที่โดดเด่นมาไว้อย่างครบครัน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์และรับทราบข้อมูลข่าวสารได้ตลอดการเดินทาง e:Ny1 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยรอบด้าน และช่วยลดภาระของผู้ขับขี่ในทุกการเดินทางด้วยฟังก์ชันขั้นสูงของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
แชสซีและระบบส่งกําลังของฮอนด้า e:Ny1 ได้รับการออกแบบเชิงวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อมอบประสบการณ์การ ขับขี่ที่สนุกสนานและมั่นใจ โดยผสมผสานกับจิตวิญญาณด้านสมรรถนะการขับขี่ของฮอนด้า และสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน และครั้งนี้ถือเป็นการนำแพลตฟอร์ม e:N Architecture F ของฮอนด้าที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ในยุโรปเป็นครั้งแรก
การนำแพลตฟอร์ม F มาใช้กับรถรุ่นนี้ จะมีแพ็กเกจมอเตอร์แบบ 3-in-1 ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด เป็นทั้งระบบขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบส่งกำลัง โดยติดตั้งอยู่บนเพลาหน้า มอเตอร์สมรรถนะสูง 150 กิโลวัตต์นี้ ให้ประสิทธิภาพการส่งพลังได้ถึง 92% ให้แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (2,788 นิวตันเมตรที่ล้อ) โดยสามารถออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.6 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนอันล้ำสมัย ด้วยวงจรการระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยจะนำส่งพลังงานอย่างสม่ำเสมอและไม่ร้อนเกินไป
ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ดีเยี่ยม ชาร์จได้หลายแบบและสม่ำเสมอต่อเนื่อง
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 68.8 kWh ขนาดคอมแพคท์ ที่ติดตั้งใต้พื้นตัวรถ ทำให้ฮอนด้า e:Ny1 วิ่งได้ไกลสูงสุด 412 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) และชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ 10% ไปถึง 80% โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที เมื่อใช้ที่ชาร์จแบบ DC ต่อเข้ากับหัวชาร์จ CCS ซึ่งสามารถรชาร์จไฟเพื่อวิ่งต่อได้อีก 100 กม. ภายในเวลา 11 นาทีเท่านั้น สำหรับที่ชาร์จไฟบ้านแบบ AC จะสามารถชาร์จไฟ 10-80% ของความจุได้ภายในเวลา 6 ชั่วโมง ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความหนาแน่นของพลังงานสูง ความจุ 195Ah ที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังตรงกลางของฮอนด้า e:Ny1 จึงทำให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและมวลน้ำหนักมารวมกันที่จุดเดียว
ฮอนด้า e:Ny1 มีระบบชาร์จที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ จึงให้อัตราการชาร์จคงที่ที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน โดยผู้ผลิตบางรายอาจจะให้ความสําคัญกับตัวเลขการชาร์จได้เร็ว แต่ฮอนด้า e:Ny1 เน้นในเรื่องของความสม่ำเสมอของการชาร์จที่มีอัตราการชาร์จต่อเนื่องเป็นเส้นตรง ยาวนานเกินกว่าครึ่งหนึ่งของระยะการชาร์จ โดยมีการพักเล็กน้อยในช่วงก่อนจะเต็มความจุ ซึ่งส่งผลดีแก่ลูกค้า เพราะจะช่วยป้องกันแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร และยังช่วยรักษาอายุการใช้งานให้สามารถอยู่ได้ตลอดอายุการใช้งานของรถ
ฮอนด้า e:Ny1 เป็นรถรุ่นล่าสุดของฮอนด้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีกล้องและโซนาร์ล่าสุด ที่มาพร้อมมุมรับภาพแนวนอนถึง 100 องศา ผสานกับพลังของชิปประมวลผลภาพความเร็วสูง ที่ให้ความแม่นยําในการจับวัตถุเมื่อใช้ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
ทั้งนี้ระบบที่เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพของกล้องคือ เซนเซอร์โซนาร์ 12 จุดรอบคันรถ แบ่งเป็น 4 จุดที่บริเวณกันชนหน้าและหลัง และด้านข้าง ข้างละ 2 จุด ที่สามารถตรวจจับวัตถุ เช่น อาคาร และพาหนะอื่น ๆ ด้วยความแม่นยําสูง ระบบกล้องและโซนาร์จะทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับความปลอดภัยโดยรวม ทำให้ ฮอนด้า e:Ny1 สามารถระบุสัญลักษณ์บนพื้นถนนและริมถนนที่ไม่มีเส้นได้ ซึ่งรวมถึงรถจักรยานยนต์ นักปั่นจักรยาน และยานพาหนะอื่นๆ
คุณสมบัติเด่นของ Honda SENSING เป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING คือ เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยเป็นการทำงานร่วมกันกับกล้องหน้ารถ เรดาร์ และเซนเซอร์โซนาร์ ในการตรวจจับและช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง รถรุ่นนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขณะรถติด (Traffic Jam Assist) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับด้วยความเร็วต่ำในสภาพการจราจรติดขัด โดยจะช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติตั้งแต่ความเร็ว 0 กม./ชม. เมื่อการจราจรไม่ติดขัด จะมีการเปลี่ยนมาเป็นระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กม./ชม. ซึ่งเป็นเกณฑ์ความเร็วที่ต่ำกว่าระบบทั่วไป อีกทั้งมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับสัญญาณจราจร เพื่อให้ผู้ขับขี่เตรียมพร้อมสําหรับทางแยกหรือในช่วงที่มีการจำกัดความเร็ว ขณะเดียวกัน ระบบนี้ก็ยังทํางานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ได้ โดยกดปุ่มแบบ one-touch เพื่อปรับความเร็วให้เข้ากับการจำกัดความเร็วในพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย